AIS ทุ่มงบ 4 พันลบ. ให้บริการ Thai Hyperscale Cloud รองรับภาครัฐ – เอกชน ตั้งเป้าต่อยอดธุรกิจ New S-Curve 

กองบรรณาธิการ

AIS Business เปิดตัวบริการ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure ครั้งแรกในประเทศไทยกับโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์มาตรฐานระดับโลก หรือ Hyperscale Cloud ซึ่งถือเป็นรายเดียวที่มีศูนย์ข้อมูลอยู่ภายในประเทศ ให้บริการโดยบริษัทไทย 100% อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายไทย พร้อมรองรับการขยายตัวของเทคโนโลยี AI, Machine Learning, Big Data อย่างครบวงจร ตอบโจทย์ความปลอดภัยด้านข้อมูลตามมาตรฐานรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนไทยสู่การเปลี่ยนผ่านในยุคดิจิทัลด้วย AI ได้อย่างแท้จริง

ภูผา เอกะวิภาต หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร AIS กล่าวว่า วันนี้ AIS ได้ก้าวสู่อีกขั้นของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ควบคู่กับการพัฒนาคน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทย ซึ่งประเทศไทยจำเป็นต้องมี AI เป็นของตัวเอง เพื่อเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยีในอนาคต เพราะ AIS เชื่อว่า โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เป็นของคนไทย คือหัวใจสำคัญของการพัฒนาประเทศในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล จึงเป็นที่มาในการเดินหน้าลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอย่างต่อเนื่องผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก สู่การให้บริการ AIS Cloud powered by Oracle Cloud Infrastructure แพลตฟอร์มคลาวด์มาตรฐานระดับโลกรายแรกของไทย ที่ดำเนินการโดยคนไทย 100% พร้อมศูนย์ข้อมูลในประเทศ (Local Data Center) ซึ่งช่วยให้องค์กรภาครัฐและเอกชนสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมั่นใจในความปลอดภัย และเป็นไปตามกฎหมายไทยทุกประการ

AIS Cloud – THAI Hyperscale Cloud พร้อมสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้องค์กรไทยอย่างเต็มรูปแบบ อาทิ การทำสัญญาด้วยภาษาไทย ลดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินด้วยค่าใช้บริการเป็นสกุลเงินบาท การบริการหลังการขายโดยคนไทยด้วยภาษาไทย พร้อมรองรับ Workload ขนาดใหญ่ ตอบความต้องการความสามารถในการปรับเปลี่ยนได้ทันที (Auto Scaling) มีมาตรฐาน Security และ Feature ใหม่ๆ ที่ Update อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี AI, Machine Learning และ Big Data ได้อย่างครบวงจร

ดร.ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มีพันธกิจที่สำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ด้วยการส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น Cloud Computing,  AI, Big Data, IoT ไปประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐ โดยเร่งสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน สามารถเข้าถึงบริการดิจิทัล รวมถึงคลาวด์ที่มีมาตรฐาน dSURE ที่จะรับรองมาตรฐานการให้บริการคลาวด์ ตั้งแต่ความสามารถพื้นฐานในการให้บริการ การให้บริการพร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย Green Technology จนถึงระดับสูงสุด คือ dSURE Cloud ระดับ 3 ดาว ซึ่งหมายถึงมาตรฐานความปลอดภัยด้านข้อมูล Sovereign Cloud ซึ่งเก็บข้อมูลอยู่ภายในประเทศ โดยไม่มีการส่งข้อมูลออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบัน AIS Business เป็นผู้ประกอบการรายแรกๆ ในประเทศไทย ที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน dSURE 3 ดาวนี้” 

ภูผา กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้ AIS ยังได้เปิดตัวบริการ AIS NaaS (Network as a Service) ตัวช่วยใหม่สำหรับองค์กรให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานระบบเครือข่ายผ่าน Portal ด้วยตนเองได้ เพิ่มความสะดวกในการปรับเปลี่ยนหรือขยายโครงข่ายและจุดใช้งานทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมโยงสู่ AIS Cloud ผ่านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่หลากหลายทั้งแบบมีสาย (Fiber Optic) และไร้สาย (5G) เพิ่มความยืดหยุ่นและปลอดภัย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญดูแล ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

AIS Business พร้อมเป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการพัฒนาดิจิทัลและ AI ให้องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเต็มรูปแบบ ด้วยการผสานเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ (Connect) การเก็บข้อมูลและประมวลผล (Compute) พร้อมต่อยอดทุกความต้องการของ Cloud ทั้ง Hybrid / Multi Cloud ไปจนถึง Application Programming Interface หรือ API ครบวงจร เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีดิจิทัลในภูมิภาคนี้อย่างยั่งยืน

“AIS เราจะเป็นผู้ให้บริการ ดิจิทัล อินฟราสตรัสเจอร์ของประเทศ จะเป็นศูนย์รวมศูนย์กลางในการเข้าถึงดิจิทัล อินฟราสตรัสเจอร์ของประเทศเพื่อนบ้านด้วย AIS Cloud เราเป็นเจ้าของเทคโนโลยีโดยทำงานร่วมกับ ออราเคิล เราสามารถใช้เทคโนโลยีแบบน้ำไฟได้ ใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น เลิกใช้เลิกจ่าย” ภูผา กล่าวและว่า AIS เป็นผู้ให้บริการเน็ตเวิร์ค ฉนั้นจะทำอย่างไรให้แน่ใจว่าคราวน์ของ AIS กับคราวน์ที่ลูกค้าใช้อยู่ สามารถทำงานด้วยกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้เร็ว สามารถทำงานได้ทั้งกับภาครัฐและเอกชน มีการออกแบบรองรับ Cloud first policy ด้วยเพื่อรองรับความปลอดภัยของข้อมูลและการทำงาน

มีบริการมากกว่า 100 บริการ

“AIS เป็น digital infrastructure service provider และร่วมกับ ออราเคิล ในการมีconnectivity มีบริการ network as a service เป็นครั้งแรกที่ภาคเอกชนรัฐบาลสามารถเข้ามาใช้บริการได้ สามารถสั่งซื้อบริการเน็ตเวิร์คเพิ่มหรือลดได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถขยายการใช้งานด้วย”

สำหรับการลงทุนนั้น AIS มีการลงทุนเริ่มต้นที่ 4,000 ล้านบาทในการให้บริการ AIS Hyperscale Cloud เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า คือ Hyperscale เริ่มตั้งแต่ ธุรกิจเอสเอ็มอีจนถึงเอ็นเตอร์ไพรส์ขนาดใหญ่ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต มีการให้บริการทั้งในรูปแบบขายผ่านพันธมิตร อาทิ รีเซลเลอร์ และดีลเลอร์

ภูผา กล่าวว่า AIS ตั้งเป้ายอดขาย โตมากกว่าตลาดและตลาดคราวน์โตอยู่ที่ 20-25% มูลค่าตลาดไอทีสำหรับองค์กรมีมูลค่าประมาณ 400,000 ล้านบาท- 700,000 ล้านบาทและตลาดเอไอมีการเติบโตที่ 40% ในระยะเวลา 3-5 ปี  มีมูลค่า 100,000 ล้านบาท 

“เราอยู่ในดาต้าเซ็นเตอร์ของเอไอเอสเรามี เน็ตเวิร์ค มีอินฟราสตรัสเจอร์อื่นๆที่สามารถประกอบร่างและตอบโจทย์ลูกค้าและคาดหวังจากการลงทุน

เราจริงจังกับคราวน์ที่สุด เราตัดสินใจว่าเป็นกลยุทธ์ AIS New S-Curve เป็น growth engine ที่ growth ผิดปรกติจากสแตนดาร์ด บิซิเนสที่เรามีอยู่ เชื่อว่าโมบายน์ปรกติ growth เปอร์เซ็นต์เดียว และในส่วนของ คราวน์ growth เป็นเลขคู่ New S-Curve นอกจากดูจำนวนของรายได้จะต้องเจนเนอร์เรทบิซิเนสใหม่ด้วยในการทรานฟอร์มเมชั่น ซึ่งบิซิเนสใหม่นี้เป็นคราวน์ ถามว่า AIS เป็นผู้เล่นรายใหม่มั้ยต้องตอบว่า ไม่เชิง เราทำเรื่องเน็ตเวิร์คมาหลายสิบปี ทำเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์มาหลายสิบปี จริงๆเป็นเหมือนท็อปิ้งจุดๆหนึ่งที่เรานั่งทำ เราเป็นคราวน์พาสเนอร์ของเจ้าอื่นหลายสิบปี ฉนั้นประสบการณ์ที่เรามีเราได้ทำ แต่คราวนี้เป็นครั้งแรกที่เราทำเป็นของตัวเองเป็น Hyperscale จริงๆ โฟกัสสุดๆ” ภูผา กล่าว

#AIS #AISBusiness #ThaiSMEs  

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *