รองนายกฯ ประเสริฐ หารือ สภาอุตสาหกรรมโคราช ผลักดันงาน AgroFEX 2025 เดินหน้าพัฒนา เมืองศูนย์กลางดิจิทัลภาคอีสาน

กองบรรณาธิการ

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงการเข้าร่วมประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาจังหวัด ที่สำนักงานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาว่า ประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมหยิบยกขึ้นมาหารือคือการจัดงาน AgroFEX 2025 ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ เรียนเชิญตนร่วมเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 30 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช พร้อมทั้งขอให้ช่วยเชิญชวนหน่วยงานและบริษัทด้านดิจิทัล อาทิ DEPA, NT, Huawei, AIS, True และไปรษณีย์ไทย เข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม

ประเสริฐ กล่าวว่า ในส่วนของการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการ (MICE) ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ เสนอให้พิจารณาสร้างศูนย์ประชุมขนาด 5,000 ตารางเมตร โดยอาจใช้พื้นที่บริเวณ ปภ.5 และให้รัฐเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างก่อนมอบให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ ซึ่งเป็นโมเดลที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หาดใหญ่นั้นตนจะหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง รวมถึงนำผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมามาพิจารณาเป็นข้อมูลประกอบ

ประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่น่าสนใจคือการพัฒนาและยกระดับพิพิธภัณฑ์ โดยสภาอุตสาหกรรมฯ ขอการสนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างและปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เชื่อมโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวหลักและโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัด ซึ่งในด้านการพัฒนาคน สภาอุตสาหกรรมฯ ได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงดีอี ในการส่งเสริมทักษะดิจิทัลและ AI ให้กับเยาวชน ตั้งแต่ระดับเด็กเล็กไปจนถึงมัธยมศึกษา ในขณะเดียวกันก็มีข้อเสนอเพิ่มเติมให้กระทรวงช่วยพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ในการทำการตลาด การจัดการด้านภาษี และการบริหารกิจการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยตรง

ด้านการลงทุน สภาอุตสาหกรรมฯ เสนอให้รัฐบาลเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อดึงดูดนักลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไบโอเทค รวมถึงการเชิญชวนบริษัทด้าน Cloud และ Data Center เข้ามาตั้งฐานในพื้นที่โคราช ซึ่งจะช่วยยกระดับจังหวัดให้เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของภาคอีสาน ขณะเดียวกันผู้แทนจากนิคมอุตสาหกรรมนวนครก็ได้สะท้อนปัญหาด้านการจัดการน้ำ โดยเน้นว่าจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่มั่นคงเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต

นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจจากภาคเอกชน เช่น การพัฒนาโคราชให้เป็นเมือง Digital Nomad เพื่อดึงดูดกลุ่มคนทำงานที่ใช้เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือหลัก ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเมือง รวมถึงการผลักดันโครงการขยายแนวเขตท่อประปาไปยังพื้นที่เขาใหญ่ที่ยังขาดแคลนระบบน้ำประปา ซึ่งล้วนเป็นปัญหาพื้นฐานที่ประชาชนให้ความสำคัญ 

“ขอชื่นชมต่อสภาอุตสาหกรรมฯ ในการพยายามและแนวคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเมืองนครราชสีมา เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะพิจารณาสนับสนุนและประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจังหวัดนครราชสีมามีศักยภาพที่จะเป็นเมืองต้นแบบของภาคอีสาน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุนและเทคโนโลยี รัฐบาลพร้อมบูรณาการกับทุกหน่วยงานเพื่อผลักดันให้โคราชก้าวสู่การเป็นเมืองทันสมัย เชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นกับโลกดิจิทัล และสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับประชาชน”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

#รองนายกฯประเสริฐ #ThaiSMEs #AgroFEX2025 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *